ในฐานะนักให้คำปรึกษาด้านอาชีพ หลายครั้งที่เราต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ซับซ้อน ซึ่งต้องการมากกว่าแค่ความรู้พื้นฐาน การเข้าใจเทคนิคขั้นสูงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถช่วยเหลือผู้รับคำปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการค้นหา passion ที่แท้จริง การรับมือกับความท้าทายในที่ทำงาน หรือการวางแผน career path ที่ยั่งยืน การเรียนรู้และพัฒนาทักษะอยู่เสมอจึงเป็นหัวใจสำคัญในการเป็นนักให้คำปรึกษาด้านอาชีพที่ประสบความสำเร็จ และเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆไปพร้อมๆกันเรามาเจาะลึกเทคนิคต่างๆ เหล่านี้ไปพร้อมๆกันในบทความด้านล่างนี้กันครับ!
การสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้รับคำปรึกษา
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับคำปรึกษาเป็นหัวใจสำคัญของการให้คำปรึกษาที่มีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือนการสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นและเปิดเผย การสร้างความไว้วางใจและความเข้าใจซึ่งกันและกันจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษารู้สึกสบายใจที่จะเปิดเผยปัญหาและความกังวลที่แท้จริง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับนักให้คำปรึกษาในการให้คำแนะนำที่เหมาะสมและตรงจุด
การฟังอย่างตั้งใจและเห็นอกเห็นใจ
การฟังอย่างตั้งใจไม่ใช่แค่การได้ยินสิ่งที่ผู้รับคำปรึกษาพูด แต่เป็นการทำความเข้าใจความรู้สึกและความคิดที่อยู่เบื้องหลังคำพูดเหล่านั้น การแสดงความเห็นอกเห็นใจจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษารู้สึกว่าคุณเข้าใจและใส่ใจในสิ่งที่พวกเขาเผชิญอยู่ ลองนึกภาพว่าคุณกำลังฟังเพื่อนสนิทระบายความในใจ คุณจะตั้งใจฟังและแสดงความเข้าใจอย่างเต็มที่ การให้คำปรึกษาก็เช่นกัน เราต้องให้ความสำคัญกับผู้รับคำปรึกษาอย่างเต็มที่ เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าเราอยู่เคียงข้างพวกเขา
การสื่อสารที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย
การใช้ภาษาที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายเป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารกับผู้รับคำปรึกษา หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เฉพาะทางที่ยากต่อการเข้าใจ และพยายามอธิบายแนวคิดที่ซับซ้อนให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดความสับสนและสร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างนักให้คำปรึกษาและผู้รับคำปรึกษา เหมือนกับการอธิบายเรื่องยากๆ ให้เด็กเข้าใจ เราต้องใช้ภาษาที่เรียบง่ายและยกตัวอย่างที่เห็นภาพ เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
การสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและผ่อนคลาย
การสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและผ่อนคลายจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษารู้สึกสบายใจที่จะเปิดเผยความคิดและความรู้สึกของตนเอง ลองสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว เพื่อให้ผู้รับคำปรึกษารู้สึกปลอดภัยที่จะพูดคุยอย่างเปิดเผย การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายจะช่วยลดความกังวลและความเครียดของผู้รับคำปรึกษา ทำให้พวกเขาสามารถคิดและพูดได้อย่างอิสระมากขึ้น เหมือนกับการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เพื่อนสนิทระบายความในใจ เราต้องสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าเราพร้อมที่จะรับฟังและสนับสนุนพวกเขา
การใช้เครื่องมือประเมินทางจิตวิทยาอย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องมือประเมินทางจิตวิทยาเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำความเข้าใจผู้รับคำปรึกษาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประเมินบุคลิกภาพ ความสนใจ หรือทักษะต่างๆ ข้อมูลที่ได้จากเครื่องมือเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการวางแผนอาชีพที่เหมาะสมกับผู้รับคำปรึกษาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องมือเหล่านี้ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังและมีจริยธรรม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อผู้รับคำปรึกษา
การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์
การเลือกเครื่องมือประเมินที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ก่อนที่จะเลือกเครื่องมือใดๆ ควรพิจารณาว่าคุณต้องการประเมินอะไร และเครื่องมือใดที่สามารถให้ข้อมูลที่คุณต้องการได้อย่างแม่นยำและน่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการประเมินบุคลิกภาพของผู้รับคำปรึกษา คุณอาจเลือกใช้แบบทดสอบบุคลิกภาพ Myers-Briggs Type Indicator (MBTI) หรือ Big Five Inventory การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และตรงจุด
การตีความผลลัพธ์อย่างรอบคอบและเป็นกลาง
การตีความผลลัพธ์ของเครื่องมือประเมินต้องเป็นไปอย่างรอบคอบและเป็นกลาง หลีกเลี่ยงการตีความผลลัพธ์ตามความเชื่อส่วนตัว และพยายามมองผลลัพธ์ในภาพรวม โดยคำนึงถึงบริบทและสถานการณ์ของผู้รับคำปรึกษาแต่ละคน การตีความผลลัพธ์อย่างเป็นกลางจะช่วยให้คุณเข้าใจผู้รับคำปรึกษาได้อย่างถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น เหมือนกับการอ่านแผนที่ เราต้องเข้าใจสัญลักษณ์และทิศทางต่างๆ อย่างถูกต้อง เพื่อที่จะนำทางไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างแม่นยำ
การให้ข้อมูลป้อนกลับที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์
การให้ข้อมูลป้อนกลับแก่ผู้รับคำปรึกษาเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการประเมินเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ข้อมูลป้อนกลับที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์จะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษาเข้าใจตนเองได้ดียิ่งขึ้น และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการพัฒนาตนเองและวางแผนอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น หากผลการประเมินบุคลิกภาพบ่งชี้ว่าผู้รับคำปรึกษามีความถนัดในการทำงานเป็นทีม คุณอาจแนะนำให้พวกเขาพิจารณาอาชีพที่ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น การให้ข้อมูลป้อนกลับที่สร้างสรรค์จะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษามองเห็นศักยภาพของตนเองและสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
การโค้ชเพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็น
การโค้ชเป็นกระบวนการที่ช่วยให้ผู้รับคำปรึกษาพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จในอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหา หรือทักษะความเป็นผู้นำ การโค้ชที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษาสามารถปลดล็อกศักยภาพของตนเอง และก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้เป็นขั้นตอนแรกของการโค้ชที่มีประสิทธิภาพ เป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษามีทิศทางในการพัฒนาตนเอง และสามารถวัดผลความก้าวหน้าได้อย่างเป็นรูปธรรม ตัวอย่างเช่น หากผู้รับคำปรึกษาต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสาร คุณอาจตั้งเป้าหมายว่า “ผู้รับคำปรึกษาจะสามารถนำเสนอผลงานได้อย่างมั่นใจและชัดเจนภายใน 3 เดือน” การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษามีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
การให้คำแนะนำและสนับสนุนอย่างสม่ำเสมอ
การให้คำแนะนำและสนับสนุนอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการโค้ชที่มีประสิทธิภาพ นักโค้ชควรให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และตรงจุด และให้การสนับสนุนผู้รับคำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พวกเขามีกำลังใจในการพัฒนาตนเอง ตัวอย่างเช่น หากผู้รับคำปรึกษาประสบปัญหาในการนำเสนอผลงาน คุณอาจให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวและการพูดในที่สาธารณะ และให้กำลังใจพวกเขาในการฝึกฝน การให้คำแนะนำและสนับสนุนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษามั่นใจในตนเองและสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็ว
การติดตามผลและความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด
การติดตามผลและความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญในการโค้ชที่มีประสิทธิภาพ นักโค้ชควรติดตามผลการพัฒนาของผู้รับคำปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุง การติดตามผลจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษารับรู้ถึงความก้าวหน้าของตนเอง และสามารถปรับปรุงวิธีการพัฒนาตนเองได้อย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น หากผู้รับคำปรึกษาสามารถนำเสนอผลงานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น คุณอาจให้คำชมเชยและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ภาษาและน้ำเสียง การติดตามผลอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษาพัฒนาทักษะได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
การจัดการกับความท้าทายและอุปสรรค
ในการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ นักให้คำปรึกษาอาจต้องเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่ใจของผู้รับคำปรึกษา ความขัดแย้งทางความคิด หรือปัญหาด้านการเงิน การจัดการกับความท้าทายเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการให้คำปรึกษาที่ประสบความสำเร็จ
การรับฟังและเข้าใจความกังวลของผู้รับคำปรึกษา
การรับฟังและเข้าใจความกังวลของผู้รับคำปรึกษาเป็นขั้นตอนแรกในการจัดการกับความท้าทาย นักให้คำปรึกษาควรเปิดโอกาสให้ผู้รับคำปรึกษาแสดงความคิดเห็นและความกังวลอย่างเต็มที่ และพยายามทำความเข้าใจมุมมองของพวกเขา การรับฟังอย่างตั้งใจจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษารู้สึกว่าคุณใส่ใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือ เหมือนกับการฟังเพื่อนสนิทระบายความในใจ เราต้องให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความคิดของพวกเขา เพื่อที่จะเข้าใจปัญหาที่แท้จริงและหาทางแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
การให้ข้อมูลและทางเลือกที่หลากหลาย
การให้ข้อมูลและทางเลือกที่หลากหลายเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการกับความท้าทาย นักให้คำปรึกษาควรให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และตรงจุด และนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายเพื่อให้ผู้รับคำปรึกษาสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด ตัวอย่างเช่น หากผู้รับคำปรึกษาไม่แน่ใจเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพของตนเอง คุณอาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ที่น่าสนใจ และนำเสนอทางเลือกในการฝึกงานหรือเรียนรู้เพิ่มเติม การให้ข้อมูลและทางเลือกที่หลากหลายจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษามั่นใจในตนเองและสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล
การสนับสนุนและให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
การสนับสนุนและให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการกับความท้าทาย นักให้คำปรึกษาควรให้กำลังใจผู้รับคำปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ และช่วยให้พวกเขามองเห็นศักยภาพของตนเอง ตัวอย่างเช่น หากผู้รับคำปรึกษาประสบปัญหาในการหางาน คุณอาจให้กำลังใจพวกเขาในการสมัครงานอย่างต่อเนื่อง และช่วยพวกเขาปรับปรุงประวัติส่วนตัวและทักษะการสัมภาษณ์ การสนับสนุนและให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษามีกำลังใจในการเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ และก้าวไปสู่ความสำเร็จ
การประเมินผลและปรับปรุงการให้คำปรึกษา
การประเมินผลและปรับปรุงการให้คำปรึกษาเป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนาทักษะและประสิทธิภาพของนักให้คำปรึกษา การประเมินผลจะช่วยให้นักให้คำปรึกษารับรู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง และสามารถปรับปรุงวิธีการให้คำปรึกษาให้ดียิ่งขึ้น
การขอความคิดเห็นจากผู้รับคำปรึกษา
การขอความคิดเห็นจากผู้รับคำปรึกษาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการประเมินผลการให้คำปรึกษา นักให้คำปรึกษาควรขอความคิดเห็นจากผู้รับคำปรึกษาเกี่ยวกับประสบการณ์ในการรับคำปรึกษา และขอให้พวกเขาให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุง การขอความคิดเห็นจากผู้รับคำปรึกษาจะช่วยให้นักให้คำปรึกษาเข้าใจความต้องการและความคาดหวังของผู้รับคำปรึกษา และสามารถปรับปรุงวิธีการให้คำปรึกษาให้ตรงกับความต้องการของพวกเขา
การวิเคราะห์ผลลัพธ์และผลกระทบ
การวิเคราะห์ผลลัพธ์และผลกระทบของการให้คำปรึกษาเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินผล นักให้คำปรึกษาควรวิเคราะห์ผลลัพธ์ของการให้คำปรึกษา เช่น ผู้รับคำปรึกษาสามารถหางานได้หรือไม่ หรือผู้รับคำปรึกษามีความพึงพอใจในอาชีพของตนเองหรือไม่ การวิเคราะห์ผลลัพธ์และผลกระทบจะช่วยให้นักให้คำปรึกษาเข้าใจว่าการให้คำปรึกษาของตนเองมีผลกระทบต่อผู้รับคำปรึกษาอย่างไร และสามารถปรับปรุงวิธีการให้คำปรึกษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักให้คำปรึกษาที่ต้องการประสบความสำเร็จ นักให้คำปรึกษาควรเข้าร่วมการอบรมและสัมมนาต่างๆ เพื่อเรียนรู้เทคนิคและวิธีการให้คำปรึกษาใหม่ๆ และควรศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในวงการอาชีพ การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้นักให้คำปรึกษาสามารถให้บริการที่มีคุณภาพและทันสมัยแก่ผู้รับคำปรึกษา
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
การสร้างความสัมพันธ์ | การฟังอย่างตั้งใจ, การสื่อสารที่ชัดเจน, การสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร |
การใช้เครื่องมือประเมิน | การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม, การตีความผลลัพธ์อย่างรอบคอบ, การให้ข้อมูลป้อนกลับ |
การโค้ช | การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน, การให้คำแนะนำ, การติดตามผล |
การจัดการความท้าทาย | การรับฟังความกังวล, การให้ข้อมูลและทางเลือก, การสนับสนุนและให้กำลังใจ |
การประเมินผล | การขอความคิดเห็น, การวิเคราะห์ผลลัพธ์, การเรียนรู้และพัฒนาตนเอง |
บทสรุปส่งท้าย
การให้คำปรึกษาด้านอาชีพเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความเข้าใจ ความเอาใจใส่ และความเชี่ยวชาญ นักให้คำปรึกษาที่ประสบความสำเร็จต้องสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับคำปรึกษา ใช้เครื่องมือประเมินอย่างมีประสิทธิภาพ โค้ชเพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็น และจัดการกับความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ นักให้คำปรึกษาต้องประเมินผลและปรับปรุงการให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถให้บริการที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์แก่ผู้รับคำปรึกษามากที่สุด
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักให้คำปรึกษาด้านอาชีพทุกท่าน และช่วยให้ท่านสามารถพัฒนาทักษะและความสามารถในการให้คำปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการให้คำปรึกษา และช่วยให้ผู้รับคำปรึกษาก้าวไปสู่ความสำเร็จในอาชีพที่ใฝ่ฝัน
ข้อมูลน่ารู้เพิ่มเติม
1. ค้นหาแหล่งข้อมูลอาชีพที่น่าเชื่อถือ: เว็บไซต์หางานชั้นนำ, สมาคมวิชาชีพ, หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
2. เรียนรู้เทคนิคการสัมภาษณ์งาน: ฝึกตอบคำถาม, เตรียมเอกสารให้พร้อม, แต่งกายสุภาพ
3. พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ: ภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่จำเป็นในตลาดแรงงานปัจจุบัน
4. สร้างเครือข่าย (Networking): เข้าร่วมงานสัมมนา, งานแสดงสินค้า, งานเลี้ยงสังสรรค์เพื่อพบปะผู้คนในสายอาชีพ
5. ติดตามข่าวสารและเทรนด์ในวงการอาชีพ: อ่านบทความ, ฟัง Podcasts, ดู YouTube เกี่ยวกับอาชีพที่คุณสนใจ
สรุปประเด็นสำคัญ
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับคำปรึกษาเป็นสิ่งสำคัญ
การใช้เครื่องมือประเมินทางจิตวิทยาช่วยให้เข้าใจผู้รับคำปรึกษาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
การโค้ชช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จในอาชีพ
การจัดการกับความท้าทายเป็นสิ่งสำคัญในการให้คำปรึกษาที่ประสบความสำเร็จ
การประเมินผลและปรับปรุงการให้คำปรึกษาเป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนาทักษะและประสิทธิภาพของนักให้คำปรึกษา
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) 📖
ถาม: นักให้คำปรึกษาด้านอาชีพมือใหม่ ควรเริ่มต้นพัฒนาตัวเองด้านไหนก่อนดี?
ตอบ: เอาจริงๆ เลยนะ น้องใหม่ไฟแรงทั้งหลาย สิ่งที่ควรเริ่มเลยคือ “ใจ” ก่อนเลย! ต้องมีใจรักที่จะช่วยเหลือคนอื่นจริงๆ เพราะงานนี้ต้องคลุกคลีกับปัญหาของคนหลากหลายรูปแบบ จากนั้นค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการลงสนามจริง อาจจะเริ่มจากงานอาสาสมัคร หรือฝึกงานในบริษัทให้คำปรึกษาก่อนก็ได้ ช่วงแรกๆ เน้นฟังเยอะๆ ถามเยอะๆ แล้วเอามาวิเคราะห์ว่าเราจะช่วยเค้าได้ยังไงบ้าง อย่าเพิ่งรีบร้อนอยากเป็นกูรูนะ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป
ถาม: เทคนิคอะไรที่ช่วยให้เราเข้าใจความต้องการของผู้รับคำปรึกษาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น?
ตอบ: เคยได้ยินคำว่า “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” ไหม? อันนี้แหละ เวิร์คสุด! พยายามมองปัญหาผ่านมุมมองของเค้าจริงๆ ไม่ใช่แค่มองจากกรอบความคิดของเราเอง ลองสังเกตภาษากาย น้ำเสียง หรือแม้แต่สีหน้าของเค้าขณะที่เล่าเรื่องราวต่างๆ เพราะบางทีสิ่งที่เค้าไม่ได้พูดออกมา อาจจะสำคัญกว่าสิ่งที่เค้าพูดก็ได้ แล้วก็อย่าลืม “ตั้งคำถาม” ที่ใช่ เพื่อกระตุ้นให้เค้าได้คิด ได้ทบทวนตัวเองอย่างละเอียด
ถาม: ทำยังไงให้คำแนะนำของเรา “โดนใจ” ผู้รับคำปรึกษา ไม่ใช่แค่ฟังแล้วก็ลืม?
ตอบ: เล่าเรื่องให้สนุก! เชื่อไหมว่าการยกตัวอย่างจากชีวิตจริง หรือเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ จะช่วยให้เค้าจดจำคำแนะนำของเราได้ดีกว่าการพูดเป็นหลักการเฉยๆ ลองหา case study ที่คล้ายกับสถานการณ์ของเค้า หรือเล่าประสบการณ์ตรงของเราเองก็ได้ แต่ที่สำคัญคือต้อง “ปรับ” คำแนะนำให้เข้ากับตัวตนและเป้าหมายของเค้าจริงๆ ไม่ใช่ยัดเยียดสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดให้เค้า เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่ต้องลงมือทำก็คือตัวเค้าเอง
📚 อ้างอิง
Wikipedia Encyclopedia
구글 검색 결과
구글 검색 결과
구글 검색 결과
구글 검색 결과
구글 검색 결과